Skip to Content

พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่  439) พ.ศ. 2548 การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการธุรกิจเงินร่วมลงทุน แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 10

พระราชกฤษฎีกา

ออกตามความในประมวลรัษฎากร

ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่  439)

พ.ศ. 2548

   ----------------------

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2548

เป็นปีที่ 60 ในรัชกาลปัจจุบัน

 

                 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

                 โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการธุรกิจเงินร่วมลงทุนบางกรณี

                 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3(1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 48 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

                 มาตรา  1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 439) พ.ศ. 2548

                 มาตรา  2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป

                 มาตรา  3  ให้ยกเลิกความใน (2) ของมาตรา 5 อัฏฐารส แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 396) พ.ศ. 2545 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

                               (2) ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2551

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร

        นายกรัฐมนตรี

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 5 อัฏฐารส แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 396) พ.ศ. 2545 ได้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการธุรกิจเงินร่วมลงทุน โดยกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวต้องได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ภายในเวลาสามปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวใช้บังคับ คือ ภายในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2548 แต่เนื่องจากในปัจจุบัน สภาวะธุรกิจเงินร่วมลงทุนอยู่ในระยะเริ่มต้น ผู้ประกอบกิจการธุรกิจเงินร่วมลงทุนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มีอยู่เป็นจำนวนน้อย ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบกิจการธุรกิจเงินร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเพื่อกระตุ้นให้มีผู้ประกอบกิจการธุรกิจร่วมลงทุนเพิ่มมากขึ้น สมควรขยายระยะเวลาการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ออกไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2551 จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

(ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 122 ตอนที่ 97   วันที่ 18 ตุลาคม 2548)

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)